นายนัทธ์ธีรโชติ เกศวพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.บี. ฟู้ดโปรดิวซ์ จำกัด
EXIM E-NEWS ประจำเดือนตุลาคม 2561 ในคอลัมน์ “CEO Talk” สัมภาษณ์นายนัทธ์ธีรโชติ เกศวพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.บี. ฟู้ดโปรดิวซ์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกน้ำปลา น้ำจิ้ม และซอสปรุงรสภายใต้แบรนด์ “Mr. Beam” แบรนด์คนไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศ
นายนัทธ์ธีรโชติ เกศวพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.บี. ฟู้ดโปรดิวซ์ จำกัด EXIM E-NEWS ประจำเดือนตุลาคม 2561 ในคอลัมน์ “CEO Talk” สัมภาษณ์นายนัทธ์ธีรโชติ เกศวพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.บี. ฟู้ดโปรดิวซ์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกน้ำปลา น้ำจิ้ม และซอสปรุงรสภายใต้แบรนด์ “Mr. Beam” แบรนด์คนไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศ
“นัทธ์ธีรโชติ” เล่าว่าจากเดิมที่ค้าขายน้ำปลาภายในประเทศ เมื่อมองเห็นโอกาสจึงผันตัวมาเป็น Trader ส่งออกน้ำปลาไปยังต่างประเทศในปี 2542 ด้วยสินค้าของบริษัทไม่ใช่แบรนด์หลักที่ลูกค้าเลือก แต่สินค้าของเราขายดีต่อเมื่อน้ำปลาของผู้ขายรายอื่นขาดตลาดเท่านั้น จึงพยายามคิดหาวิธีทำให้สินค้าครองตลาดได้ นั่นคือผลิตสินค้าคุณภาพดี แม้จะกำไรน้อย แต่เพื่อสร้างโอกาสด้านการขายให้ตัวเอง
“หลายปีต่อมา ผมได้รับคำแนะนำจากลูกค้าในต่างประเทศว่าควรมีผลิตภัณฑ์อย่างอื่นด้วย และได้ให้เงินทุนจำนวนหนึ่งมาทดลองผลิตน้ำจิ้ม ผมจึงตัดสินใจตั้งบริษัท บี.บี. ฟู้ด โปรดิวส์ จำกัด ในปี 2548 เพื่อผลิตและส่งออกน้ำปลาและซอสต่างๆ”
“นัทธ์ธีรโชติ”ยอมรับว่าในช่วงแรกทั้งๆ ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย แต่ยังอยากทำธุรกิจในตลาดนี้ต่อไป จึงต้องขวนขวายหาความรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อที่จะสามารถอยู่ในอาชีพผู้ผลิตได้ และเป็นความโชคดีประกอบกับได้รับโอกาสจากการสั่งซื้อจำนวนมากจากผู้ซื้อ ซึ่งผู้ซื้อในช่วงแรกไม่ต้องการเอกสารรับรองคุณภาพการผลิต หรือเงื่อนไขการซื้อมีไม่มากนัก ทำให้มีโอกาสในการผลิตเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดทักษะในการผลิตและได้เรียนรู้ความผิดพลาดจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง และได้แก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ผ่านไปได้ด้วยดี
“ทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาดจากการผลิตผมจะรับผิดชอบและแก้ไขตามความต้องการของผู้ซื้อจนเป็นที่พอใจ และปัญหาการผลิตก็ลดลงเรื่อยๆ จนได้รับความไว้วางใจเรื่อยมา เพราะด้วยความไม่มีทั้งความรู้และประสบการณ์ ช่วงแรกของการผลิตจึงไม่ประสบความสำเร็จ แต่เราไม่ละความเพียร ยังคงศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจังจนผลิตได้สำเร็จในที่สุด”
พร้อมย้ำว่าบริษัทของเราใช้ “ความเพียร” อย่างมากในการทำธุรกิจ ด้วยการหาลูกค้าจากช่องทางต่างๆ และติดต่อขอเข้าพบลูกค้าหลายรายเพื่อนำเสนอสินค้า เรามุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าด้วยโรงงานที่มีมาตรฐานและใช้เครื่องจักรที่ดีที่สุด แต่ขายสินค้าในราคาต่ำกว่าตลาด ทำให้ยอดขายสินค้าของเราโตขึ้นปีละเกือบ 100% ในช่วง 4 ปีแรก จากโรงงานแห่งแรกมีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ กำลังการผลิต 10-20 ตันต่อวัน ขณะนี้ผลิตสินค้าไม่ทันตามความต้องการของลูกค้า จึงสร้างโรงงานแห่งใหม่บนเนื้อที่ 10 ไร่ กำลังการผลิต 100-300 ตันต่อวัน มีกำหนดเปิดดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2561นี้
สำหรับสินค้าของบี.บี. ฟู้ด โปรดิวส์ ได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ อาทิ มาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร The British Retail Consortium (BRC) และมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ HACCP, GMP (CODEX) เป็นต้น
ในด้านช่องทางการจำหน่าย ปัจจุบันขายสินค้าในประเทศผ่าน Trading ประมาณ 30% และอีก 70% ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยุโรป เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
“นัทธ์ธีรโชติ” กล่าวต่อว่าสินค้าของบริษัทมีคุณภาพได้มาตรฐาน ผลิตได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ในราคาที่ต่ำกว่าตลาด เป็นเพราะเรามีทีมงานที่มีความเข้าใจและเชี่ยวชาญในธุรกิจอย่างแตกฉาน ทำให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทีมงานของเราทำงานอยู่ด้วยกันมานาน มีอายุงาน 7-14 ปี ทำให้แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญในงานที่รับผิดชอบ สามารถผลิตสินค้าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราพยายามหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพแต่ราคาต่ำกว่าทั่วไป โดยการทำสัญญาการซื้อจำนวนมาก รวมทั้งใช้กระบวนการผลิตที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตและลดต้นทุน
ปัจจุบันโรงงานขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถและความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นอุปสรรคหนึ่งในการทำธุรกิจ หากเราไม่สามารถหาบุคลากรเหล่านี้มาเพิ่มเติมได้
ขณะเดียวกันในแง่ความท้าทายคือ ตลาดส่งออกน้ำปลาและซอสต่างๆ เป็นตลาดที่ใหญ่ เราต้องพัฒนาตัวเองและธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง
กว่าจะมาสู่ความสำเร็จในวันนี้ “นัทธ์ธีรโชติ”กล่าวว่า “เป็นเพราะลูกค้าทุกๆ คนให้โอกาส สนับสนุน และเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความเพียร พยายามหาข้อมูลและพัฒนาตนเองและธุรกิจให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าสากลอยู่ตลอดเวลา ตัวผมเองทำธุรกิจด้านอาหารทั้งที่ไม่ได้เรียนจบทางด้าน Food Science แต่มีความมุ่งมั่นจะทำธุรกิจส่งออก มีความซื่อสัตย์ในอาชีพ มีระเบียบวินัย รักษาสัญญา เพื่อทำให้บริษัทเป็นที่เชื่อถือของลูกค้าและสถาบันการเงินที่สนับสนุนเรา ธุรกิจจะเติบโตหรือมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องได้นั้น ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นและเชื่อใจของลูกค้าต่อธุรกิจของเรา นอกจากนี้ เราต้องไม่สร้างปัญหาให้กับลูกค้า ในการทำธุรกิจนั้น “การรักษาคำพูด” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
พร้อมกล่าวเสริมว่าด้วยบริการของ EXIM BANK ที่สนับสนุนธุรกิจของบริษัทด้วยดีมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Forward Contract) ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของธุรกิจระหว่างประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของ EXIM BANK ยังให้บริการด้วยความเต็มใจ มีใจบริการ บางครั้งธุรกิจมีปัญหา EXIM BANK จะให้คำแนะนำและช่วยหาทางแก้ปัญหา ไม่เคยค้าประโยชน์กับผู้ประกอบการ
“ผมจึงอยากใช้โอกาสนี้ขอบคุณ EXIM BANK ที่คอยสนับสนุน ธุรกิจของเราเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเพราะได้รับการสนับสนุนจาก EXIM BANK”
ส่วนผู้ประกอบการและผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ “นัทธ์ธีรโชติ”แนะนำว่า “ขอให้มีความฝัน ความมุ่งมั่นที่ชัดเจนและแน่วแน่ รวมทั้งต้องรู้จักความสามารถของตนเอง มองว่าเรามีความสามารถอะไรบ้าง แล้วพัฒนาตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผมเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพและความสามารถ เพียงแต่ความสามารถในการดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้อาจมีไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความใส่ใจ ยิ่งมีความอุตสาหะและความเพียรมาก เราจะยิ่งดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ออกมาได้มาก และสิ่งสำคัญคือ ต้องมีความซื่อสัตย์และมีระเบียบวินัย เหล่านี้คือปัจจัยที่จะทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังได้”